บทความความรู้ หลอดไฟ LED | โคมไฟ LED By: INFINITE LED

  ในยุคปัจจุบันไฟฟ้าเป็นสิ่งที่สำคัญลำดับต้นๆสำหรับการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต แต่จะทราบหรือไม่ว่าไฟฟ้าที่เราใช้กันอยู่ปกติทั่วไปแล้วนั้นมีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทนั้นแต่ต่างกันอย่างไร วันนี้เรามาดูกันครับ ไฟฟ้านั้นจริงๆแล้วเกิดขึ้นจากแหล่งกำเนิดหลายๆแบบ ซึ่งแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ด้วยกัน นั่นคือ ไฟฟ้าสถิต (Static Electricity) และ ไฟฟ้ากระแส (Current Electricity) ไฟฟ้าสถิต คือ ไฟฟ้าที่เกิดจากการเสียดสีเมื่อเอาวัตถุบางอย่างมาถูกันจะทำให้เกิดพลังงานขึ้น ซึ่งพลังงานนี้สามารถดูดสิ่งที่เบาๆอย่างเช่นเศษกระดาษได้ เช่น เอาแท่งยางแข็งถูกับผ้าสักหลาด เป็นต้น พลังงานที่เกิดขึ้นเหล่านี้เรียกว่า ประจุไฟฟ้าสถิต เมื่อเกิดประจุไฟฟ้าแล้ววัตถุที่เกิดประจุไฟฟ้านั้นจะเก็บประจุไว้แต่ในที่สุดประจุไฟฟ้าจะถ่ายเทไปจนหมด วัตถุที่เก็บประจุไฟฟ้าไว้นั้นจะคายประจุอย่างรวดเร็วเมื่อต่อลงดิน ในวันที่มีอากาศแห้งจะทำให้เกิดประจำฟฟ้าได้มาก ซื้อทำให้สามารถดูดวัตถุได้ดี ประจุไฟฟ้าที่เกิดจะมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกันนั่นคือ ประจุบวกและประจุลบ คุณสมบัติของประจุไฟฟ้าคือ ประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกัน จะผลักกัน ประจุไฟฟ้าต่างชนิดกันจะดูดกัน ไฟฟ

  ยุคสมัยเปลี่ยนสิ่งต่างๆรอบตัวก็จะเปลี่ยนไป สิ่งต่างๆพัฒนามากยิ่งขึ้น จนบางทีเราอาจจะตามไม่ทัน แล้วนวัตกรรมมันคือดอะไรกันแน่ แล้วโคมไฟนวัตกรรมหล่ะมีจุเด่นอย่างไรบ้าง มาดูกันครับ นวัตกรรม  คือ แนวคิดใหม่ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ที่ต่อยอดและใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อนำไปสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น ซึ่งนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จ สามารถช่วยสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจได้ กว่าที่นวัตกรรมจะเกิดขึ้นได้ จะต้องผ่านกระบวนการประดิษฐ์คิดค้น, พัฒนาทดลองปรับปรุง และนำไปใช้งานได้จริง โดยในปัจจุบันมีสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมต่างๆ มากมาย ที่เข้ามามีบทบาทช่วยเสริมการไลฟ์สไตล์ให้มนุษย์สะดวกมากขึ้น ตราบใดที่มนุษย์ยังไม่หยุดคิดค้น และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ  นวัตกรรม ก็ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากเราจะมีสินค้าและบริการที่มีคุณภาพมากขึ้นแล้ว เรายังจะได้ประโยชน์จากการเกิดใหม่ของนวัตกรรมด้านต่างๆ ที่มีต่อชีวิตประจำวัน หลายนวัตกรรมสามารถช่วยแก้ปัญหาในชีวิตได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งเมื่อนำมาประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ อย่างเหมา

  ค่า Total Harmonic Distortion ( THD ) เป็นค่าบ่งบอกว่าในระบบมี Harmonics อยู่มากน้อยแค่ไหน โดยค่า THD ที่มีค่าน้อยจะดีกว่ามีค่ามาก ( 0% หมายถึงไม่มี Harmonics หรือ 100% มี Harmonics สูงสุด) การใช้งานตามอาคาร โรงงาน หรือโรงพยาบาลนั้น งานทางด้านเกี่ยวกับหลอดไฟ LED หรือ โคมไฟ LED การที่ THD (THDi) มีค่าน้อยหมายความว่า อุปกรณ์นั้นมีความแม่นยำ มี คลื่นไฟฟ้ารบกวนน้อย ในด้าน Power การที่ THD มีค่าน้อยหมายความว่า ระบบมีความสูญเสียที่เกิดจาก Harmonic น้อย ความร้อนเกิดขึ้นน้อย ซึ่งส่งผลดีต่อระบบ ผลกระทบของฮาร์มอนิก   THD (Total harmonic distortion ) or THDi ที่มีผลต่ออุปกรณ์ในระบบไฟฟ้า 1.ผลของกระแสฮาร์มอนิก   THD (Total harmonic distortion )   ทำให้เกิดความร้อนในตัวฟิวส์เพิ่มมากขึ้น 2.ผลของฮาร์มอนิก   THD (Total harmonic distortion )   อาจทำให้ Relay ทำงานผิดพลาด 3.   THD (Total harmonic distortion )   มีผลต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า ทำให้เกิดความสูญเสียเพิ่มขึ้นเป็นผลให้อุปกรณ์ไฟฟ้ามีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ เช่นมอเตอร์ หม้อแปลง เครื่องจักร ในส่วนของหลอดไฟ LED นั้นโดยส่วนมากหลอดไฟจะมี THD (Total harmonic dist

  ก่อนที่คุณจะไปเลือกซื้อ โคมไฟถนน LED สำหรับงานโครงการหรือ  TOR  คุณควรจะทราบก่อนว่า TOR นั้นคืออะไร ? TOR คือ ร่างขอบเขตของงาน Terms of Reference (TOR) นั้นเป็นเอกสารที่กำหนดขอบเขตของงานและรายละเอียดของภารกิจที่ผู้จัดทำ TOR ต้องการให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างดำเนินการ รวมทั้งความรับผิดชอบอื่นๆ ของผู้ขายหรือผู้รับจ้างที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนั้น ซึ่งรายละเอียดของงานที่ผู้ซื้อหรือผู้ว่าจ้างประสงค์จะให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทำงานให้  โดยการบอกขอบเขตจองงานให้ชัดเจน ระยะเวลาที่ต้องการ คุณสมบัติของผู้เสนอราคา ซึ่งผู้ซื้อหรือผู้ว่าจ้างต้องการให้ทำงานตามขอบเขตดังกล่าว รวมถึงข้อกำหนดที่ผู้ซื้อหรือผู้ว่าจ้างต้องการให้กำเนินการ จะมีกี่ขั้นตอน แต่ละขั้นตอนประกอบด้วยอะไรบ้าง ผิดสัญญาจะถูกปรับอย่างไร สิ่งต่างๆ เหล่านี้ผู้ซื้อหรือผู้ว่าจ้างจะจัดให้อยู่ใน TOR ทั้งหมด เพื่อประกาศหาผู้ขายหรือผู้รับจ้างตามกรรมวิธีต่อไป ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะเป็นผู้ขายหรือผู้รับจ้าง ได้ศึกษาดูก่อนว่างานตามประกาศ สามารถทำได้หรือมีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้น ประกอบการพิจารณาในขั้นตอนการดำเนินการจัดหาผู้ซื้อหรือผู

  “หลอดไฟ LED”  นั้นเป็นที่ได้รับการกล่าวถึงและได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรม โกดังคลังสินค้า หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน หรือแม้แต่ตามอาคารบ้านเรือนเอง ก็นิยมใช้หลอดไฟ LED กันมากขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่าหลอดไฟ LED สามารถช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟได้อย่างมาก อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในเรื่องของความสว่างที่มากกว่าอีกด้วย หลอดไฟมีหลายประเภทด้วยกัน แต่ละประเภทก็จะใช้งานต่างกัน แต่หลอดไฟแบบไหนจะเหมาะกับการใช้งานของคุณ โรงงานอุตสาหกรรม/โกดังเก็บของ ในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรม และโกดังเก็บของ เป็นสถานที่ ที่ต้องใช้โคมไฟค่อนข้างเยอะกว่าในที่อื่นๆ เนื่องจาก โรงงานประกอบด้วย หลากหลายส่วน เช่น ส่วนของสำนักงาน ส่วนของการผลิตและส่วนของที่จัดเก็บสินค้า ดังนั้น ความหลากหลายดังที่กล่าวมา ก็จำเป็นต้องเลือกใช้ให้ต่างกันไปเพื่อความเหมาะสม ตัวอย่างเช่น ส่วนของพื้นที่การผลิตก็ควรที่จะเลือกใช้ไฟที่สว่างเพียงพอ เพราะต้องติดไฟค่อนข้างสูง อย่างเช่น  โคมไฟไฮเบย์ LED  เนื่องจาก โคมไฮเบย์นั้น มีความปลอดภัยมากกว่าโคมไฟแบบอื่นๆ ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า เพราะในการผลิตจะต

  วัตต์( Watt)  วัตต์ทุกคนอาจจะพอรู้กันอยู่แล้วว่าวัตต์คือหน่วยวัดกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่ละอุปกรณ์ไฟฟ้าก็ใช้วัตต์ไม่เท่ากัน แล้ววัตต์เยอะหรือวัตต์น้อยดีกว่ากัน วัตต์(watt)  คือ หน่วยวัดกำลังไฟฟ้าที่เป็นตัวบอกพลังงานไฟฟ้าของอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิด ที่ใช้ในการทำงาน โดยคนส่วนใหญ่จะคิดว่าการที่ผลิตภัณฑ์ที่ตนเองซื้อนั้นมีค่าวัตต์ที่สูงจะดีกว่าแต่มันก็ไม่เสมอไป ผลิตภัณฑ์บางประเภทก็จำเป็นที่จะต้องมีวัตต์ที่สูงเพื่อประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่นเครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น แต่จะดีกว่าไหมที่ผลิตภัณฑ์บางชนิดที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ใช้กำลังวัตต์ที่น้อย พร้อมทั้งประหยัดไฟให้เราได้อีกอย่างเช่นหลอดไฟเป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วในอดีตนั้นคนทั่วไปจะคิดว่าการที่วัตต์สูงๆ จะทำให้หลอดไฟนั้นมีความสว่างสูงตาม แต่ในยุคนี้นั้น หลอดไฟ LED นั้นไม่ได้มีวัตต์สูงแต่ความสว่างกลับสวนทาง ในอดีตโดยส่วนใหญ่แล้วหลอดไฟฟูลออเรสเซนต์ T8 นั้นจำนวนวัตต์จะอยู่ที่ 36 และจำนวนลูเมน(ปริมาณแสง)จะอยู่ที่ 2100 แต่ หลอดไฟ LED  นั้น ในจำนวนลูเมนที่เท่ากันกลับใช้เพียงแค่ 18 วัตต์เท่านั้น แปลว่าหลอดไฟ LED นั้นใช้ไฟน้อยกว่าในควา

  แสงสว่างเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตยุคปัจจุบันทั้งในเรื่องการดำรงชีพ การแพทย์ การเรียน หรือแม้กระทั่งการทำงาน และการเลือกไฟที่ให้แสงสว่างอย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นอีกเรื่องสำคัญเช่นกัน ในยุคปัจจุบันหลอดไฟที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายจะมี  หลอดฟลูออเรสเซนต์  กับ หลอดไฟแอลอีดี เพราะหาซื้อได้ทั่วไป มีประสิทธิภาพ แต่หลอดทั้งสองแบบก็แตกต่างกัน หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าเราจะเลือกหลดไฟแบบไหนดีนะ ? หลอดฟูลออเรสเซนต์มีอันตรายตรงที่มีสารปรอทบรรจุอยู่ภายในหลอด จึงทำให้เวลาหลอดไฟแตกจะเป็นอันตรายอย่างมาก ซึ่งหลอดไฟ LED ไม่มี หลอดฟูลออเรสเซนต์เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน ตัวหลอดจะมีความร้อนที่สูง จับต้องไม่ได้ แต่หลอดไฟ LED นั้นมีความร้อนต่ำ สามารถจับต้องได้ในระหว่างการใช้งาน หลอดฟูลออเรสเซนต์จะเสียง่ายเมื่อเปิดปิดบ่อยๆซึ่งแตกต่างจากหลอดไฟLED ที่ทนทานมากกว่า หลอดฟูลออเรสเซนต์มีราคาถูกกว่าหลอดไฟ LED แต่การให้แสงสว่างก็น้อยกว่ามากเช่นกัน หลอดฟูลออเรสเซนต์มีอายุการใช้งานประมาณ 20,000 ชั่วโมง ส่วนหลอดไฟ LED ที่มีอายุการใช้งานประมาณ 50,000 ชั่วโมง ซึ่งมีอายุการใช้งานนานกว่าถึงเท่าตัว หลอดฟูลออเรสเซนต์ก

  ถ้าโลกนี้ไม่มีไฟฟ้าหรือแสงสว่างใช้ การดำรงชีวิตในปัจจุบันคงเป็นไปได้ยาก ทั้งในเรื่องการดำรงชีพ การแพทย์ การศึกษาล้วนแต่ต้องมีแสงสว่างในการดำเนินเรื่องทั้งนั้น แต่ทั้งนี้ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานความร้อนในปัจจุบัน มีส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะเป็นพิษ พลังงานไฟฟ้าทางเลือกที่ผลิตจากแสงอาทิตย์ หรือโซล่าเซลล์ จึงได้รับความนิยมมากขึ้น โคมไฟโซล่าเซลล์  คือสิ่งประดิษฐ์จากสารกึ่งตัวนำที่สร้างขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนพลังงานแสงที่ส่วนใหญ่จะเป็นแสงจากดวงอาทิตย์ ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง โดยทั่วไปเซลล์แสงอาทิตย์มักสร้างจากสารกึ่งตัวนำ เช่น ซิลิคอน ที่ได้จากการถลุงจากแร่ควอตซ์ ซึ่งซิลิคอนเป็นธาตุที่มีราคาถูกที่สุดและมีมากบนพื้นโลก โดยเมื่อมีแสงตกกระทบบนแผ่นเซลล์แสงอาทิตย์จะมีการทำปฏิกิริยาทางวิทยาศาสตร์เปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า สำหรับเซลล์แสงอาทิตย์หนึ่งแผ่นอาจมีรูปร่างทั้งแบบแผ่นวงกลมหรือแผ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสก็ได้ สำหรับประเทศไทยเรานั้นยังไม่นิยมนำมาใช้เท่ากับประเทศอื่นๆ แต่ช่วงนี้โคมไฟโซล่าเซลล์เป็นที่นิยมกันเป็นจำนวนกันมาก ซึ่งข้อดีข